“กระชาย” ให้รส ให้กลิ่น ให้ประโยชน์แบบสุดๆ

“กระชาย” เป็นผักที่อยู่ในวงศ์ขิง มีชื่อเรียกมากมาย ขึ้นอยู่กับว่า คนเรียกอยู่ในพื้นที่ไหน  ไม่ว่าจะเรียก กระชายดำ กะแอน ขิงทราย อย่างคนมหาสารคาม เรียก จี๊ปู ซีฟู เปาซอเร๊าะ เป๊าสี่ เป๊าะสี่ ระแอน เป๊าะซอเร้าะ แบบชาวกะเหรี่ยงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และสิ่งที่ควรรู้คู่กันไปคือ กระชาย มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คือ กระชายดำ กระชายแดง และกระชายเหลือง  และกระชายยังถูกจัดให้เป็นพืชสมุนไพรที่นิยมนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในแกงป่าหรือผัดต่างๆ

การนำกระชายมาปรุงอาหารนิยมนำรากมาใช้ โดยจะเห็นได้ว่า หน้าตาของกระชายเหมือนเป็นแง่งๆ ใช่ไหมค่ะ จริงๆ ตรงนั่นล่ะค่ะที่เป็นราก มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “รากสะสมอาหาร” มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ซึ่งบางคนโดยเฉพาะคนเหนือและอีสานที่ชอบกินน้ำพริกก็จะเอามาจิ้มน้ำพริกกินอร่อยๆ แต่ในภาคกลางมักเอามาเป็นส่วนประกอบของเครื่องแกง และใช้ประโยชน์ของกลิ่นกระชายในการดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์เนื้อปลา

และอย่างที่บอกไปนะคะว่า กระชายมีอยู่ 3 ชนิด แต่ที่นิยมใช้กันคือ กระชายเหลืองและกระชายดำ นอกจากนี้ ความที่กระชาย มีสรรพคุณทางยาเพียบ ในวงการแพทย์แผนไทยเลยยกให้เป็น "โสมไทย" ซะเลย

ถ้าสงสัยว่า โห...อะไรจะขนาดนั้นเชียว เหตุผลเพราะสรรพคุณในการบำรุงกำลังเป็นหลัก (ซึ่งกำลังที่ว่านี้ก็รวมทั้งกำลังวังชา ร่างกายแข็งแรงและเรื่องเพศนั่นเอง) แต่มากกว่านั้นคือ ทั้งกระชายและโสมเป็นพืชที่มีส่วนสะสมอาหารที่ใช้เป็นยาอยู่ใต้ดินเหมือนกัน แถมยังสามารถเรืองแสงในที่มืดได้เหมือนกันด้วย (อ้างอิงจาก https://medthai.com/)

มาพูดถึงประโยชน์ของกระชายแบบเต็มๆ กันบ้าง โดยข้อมูลจาก ฐานข้อมูลเครื่องยาไทย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี  ระบุไว้ว่า...

สรรพคุณของ “เหง้า” กระชาย ตามตำรายาไทย มีดังนี้คือ ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด แก้ปวดมวนท้อง ขับลม ช่วยให้กระเพาะ และลำไส้เคลื่อนไหวดีขึ้น แก้โรคอันเกิดในปาก แก้มุตกิด แก้ลมอันบังเกิดแต่กองหทัยวาต แก้ปากเปื่อย ปากแห้ง ปากแตกเป็นแผล แก้ปวดมวนในท้อง แก้บิดมูกเลือด แก้ปวดเบ่ง รักษาลำไส้ใหญ่อักเสบ บำรุงกำลัง ช่วยเจริญอาหาร ขับระดูขาว แก้ใจสั่น

หากเป็น “ราก” จะช่วยแก้กามตายด้าน ทำให้กระชุ่มกระชวย บำรุงความกำหนัด

ทั้งนี้บัญชียาจากสมุนไพรที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ระบุตำรับ "ยาเลือดงาม" มีส่วนประกอบของเหง้ากระชายร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ

นอกจากนี้ในตำรายาพื้นบ้านนครราชสีมา ระบุว่าใช้เหง้า แก้โรคบิด โดยนำเหง้าย่างไฟให้สุกแล้วโขลกให้ละเอียดผสมกับน้ำปูนใส รับประทานทั้งน้ำและเนื้อ ครั้งละครึ่งแก้ว เช้า เย็น และใช้เหง้าแก้กลากเกลื้อน โดยนำเหง้ามาโขลกให้ละเอียดผสมกับเหล้าโรงทาบริเวณที่เป็นแผล ส่วนตำรายาพื้นบ้านล้านนาก็บอกว่าใช้เหง้ารักษาโรคทางดินปัสสาวะอักเสบ กลากเกลื้อน ท้องอืดเฟ้อได้

เห็นไหมล่ะคะว่า “กระชาย” ประโยชน์มากมายจริงๆ และไม่ได้หากินยาก เพราะมีทั่วประเทศ ทุกพื้นที่ในประเทศไทย อยู่ที่ว่า คุณจะสนใจนำกระชายมากินแบบไหน

สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อกระชายไปปรุงอาหาร หรือซื้อในปริมาณมากๆ ไว้ทำการค้า โทรฯ  KC Fresh มีกระชายจำหน่ายตั้งแต่ปริมาณน้อยๆ ถึงหลักกิโลกรัม แถมส่งให้ถึงที่ ภายใต้มาตรฐานความปลอยภัยตั้งแต่โรงงานถึงบ้านคุณค่ะ

ข้อมูล : http://www.thaicrudedrug.com/ , https://www.thairath.co.th/ , http://www.farmchokdee.com/th