“ขิง” จะแก่จะอ่อนก็ดีทั้งนั้น

คนจีนมีความเชื่อในสรรพคุณของขิงมาแต่ไหนแต่ไร ไม่ว่าจะเป็น “ชา 1 แก้ว ขิง 1 แว่น ขับลมบำรุงกระเพาะดีนักแล”, “ตื่นนอน ขิง 3 แว่น ไม่แพ้ซุปใส่โสม”, “ทุกวันกินขิง 3 แว่น ไม่ต้องรบกวนหมอสั่งยา” ซึ่งความเชื่อที่ว่าส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นจนถึงปัจจุบัน และแม้ว่ารูปร่างหน้าตาของ “ขิง” จะแลดูไม่ค่อยสวยงามน่ารักน่าสัมผัสสักเท่าไหร่ แต่ในความรูปไม่สวยของขิงอัดแน่นไปด้วยประโยชน์มากมายจริงๆ

'ขิง' โดดเด่นในเรื่องรสชาติและกลิ่น จัดเป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นเป็นกอ มีเหง้าใต้ดินเป็นข้อๆ เนื้อในสีขาวหรือเหลืองอ่อน โดยเหง้ามีสรรพคุณทางยาในการรักษาอาการแน่นจุกเสียด มีฤทธิ์ต้านการอาเจียนและช่วยขับลม แม้จะมีรสชาติเผ็ดร้อน แต่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรต เส้นใย และโปรตีน แถมทุกส่วนของขิง ยังนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด

ช่วยลดอาการท้องอืด > แค่จิบน้ำขิงหรือกินขิงสดๆ ก็ช่วยรักษาอาการดังกล่าวได้ เพราะขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน จึงช่วยขับลมและไปกระตุ้นการทำงานของลำไส้

บรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียน > จะเมารถเมาเรือถ้าได้จิบน้ำขิงร้อนๆ ที่มีรสเผ็ดอมเปรี้ยว พร้อมๆ กับสูดดมกลิ่นอ่อนๆ ของขิงก็จะดีขึ้น ทั้งนี้มีการวิจัยพบว่าขิงมีส่วนช่วยในการป้องกันและบรรเทาอาการอาเจียนหลังจากผ่าตัด แถมยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียนสำหรับผู้ป่วยมะเร็งที่เข้ารับเคมีบำบัดด้วย

ลดความเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูง > ความที่ขิงมีรสจัดและเป็นสมุนไพรที่มีโซเดียมที่ต่ำมาก จึงมีส่วนช่วยลดความดันโลหิตสูงได้

ลดระดับน้ำตาลในเลือด > ผู้ป่วยโรคเบาหวานกินขิงได้ เพราะขิงมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ควรกินในปริมาณที่แพทย์แนะนำ เพราะหากกินเองในปริมาณที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลให้ระดับอินซูลินลดลง และอาจทำให้ร่างกายอยู่ในขีดอันตรายได้

ใช้ลดไข้ได้ > เมื่อมีไข้สูงให้นำขิงสดมาคั้นให้ได้น้ำ 1/2 ถ้วย ผสมกับน้ำอุ่นและน้ำผึ้งเพื่อลดความเผ็ดร้อนลง จากนั้นจิบบ่อยๆ หรือดื่มวันละ 3 ครั้ง ไข้จะค่อยๆ ลดลง

แก้ปัญหาผมขาดร่วง-ศีรษะล้าน > นำเหง้าขิงสดไปผิงไฟจนอุ่นแล้วตำให้แหลก จากนั้นพอกบริเวณที่ผมขาดร่วงวันละ 2 ครั้ง จนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือนำน้ำขิงสดคั้นผสมกับน้ำมันมะกอกหมักผม นวดให้ทั่วแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีจึงล้างออกก็จะช่วยลดปัญหาผมขาดร่วงได้ดี

ผิวเนียนเพราะขิง > นำขิงสดมาขูดเป็นฝอยแล้วนำมานวดที่ต้นขา ก้น รวมทั้งบริเวณที่มีเซลลูไลท์ก็ช่วยลดปัญหาผิวส้ม ทำให้ผิวกลับมาสวยเรียบเนียนเหมือนเดิม

ใช้ล้างปากหลังกินอาหาร > ทำไมคนญี่ปุ่นมีขิงดองบนโต๊ะอาหาร? เพราะเอาไว้กินหลังจบมื้ออาหาร เพื่อไม่ให้รสชาติอาหารจานเดิมติดอยู่ในปากจนทำให้เกิดความรู้สึกเลี่ยนจนไม่สามารถกินเมนูต่อไปได้

ดับกลิ่นปาก > นำขิงมาคั้นผสมกับน้ำอุ่นเติมเกลือเล็กน้อยแล้วนำมาบ้วนปากก็ช่วยลดกลิ่นปากได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยฆ่าเชื้อโรคในปากได้อีกด้วย

แก้อาการสะอึก > เมื่อมีอาการสะอึก ให้นำขิงสดมาตำให้จนแหลก คั้นเอาแต่น้ำผสมกับน้ำผึ้งแท้เพียงเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วดื่ม สักพักอาการสะอึกจะหายไป

แม้ขิงจะมีประโยชน์ แต่การกินขิงติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดแผลในปากได้ เพราะขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน ถ้ากินมากไป อาจทำให้เยื่อบุภายในช่องปากเกิดการอักเสบจนเป็นอาการร้อนในได้ ฉะนั้นแล้ว จะบริโภคขิงเมื่อไหร่ ดูปริมาณให้พอเหมาะพอดี โดยไม่ควรกินขิงเกินวันละ 4 กรัมต่อวัน เพราะอาจทำให้เกิดกรดไหลย้อน และรบกวนยาต้านการแข็งตัวของเลือดได้  

 

คุณค่าทางโภชนาการของขิง

  • ขิง 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการดังนี้
  • พลังงาน 25 กิโลแคลอรี่
  • โปรตีน 0.4 กรัม
  • คาร์โบไฮเดรท 4.4 กรัม
  • ไขมัน 0.6 กรัม
  • เส้นใยอาหาร 0.8 กรัม
  • ธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัม
  • แคลเซียม 18 มิลลิกรัม
  • ฟอสฟอรัส 22 มิลลิกรัม
  • เบต้า-คาโรทีน 10 ไมโครกรัม
  • วิตามินซี 1 มิลลิกรัม
  • ไธอะมีน 0.02 มิลลิกรัม
  • ไนอะซีน 1 มิลลิกรัม
  • ไลโบฟลาวิน 0.02 มิลลิกรัม