“มะเขือพวง” กับการดูแลสารพัดโรค

KC Fresh เคยพูดถึงเรื่องของมะเขือพวงไปแล้วในบทความ “อย่าเขี่ยทิ้งอีกเลย มะเขือพวงมีดีกว่าที่คิด” และได้แจกสูตรเด็ด “น้ำพริกมะเขือพวงรสเด็ดประโยชน์ครบถ้วน” ให้ได้ลองไปปรุงเป็นอาหารประจำบ้านไปแล้ว แต่ความเจ๋งของมะเขือพวงลูกจิ๋วยังไม่จบ วันนี้เราจะพูดถึงมะเขือพวงในแง่ที่สัมพันธ์กับโรคต่างๆ ให้ได้รู้ค่ะ

ข้อมูลจาก ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม ระบุว่า ‘มะเขือพวงมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของลำไส้ เพื่อตอบสนองต่อสารพิษที่เข้ามายังระบบทางเดินอาหาร และยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันความเสื่อมและแก่ก่อนวัย รวมถึงมีฤทธิ์ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในโรคเบาหวาน โดยส่วนต่างๆ ของต้นมะเขือพวงสามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นได้ เริ่มต้นจากลำต้น ใบ และผล จัดว่าเป็นยาเย็นรสจืด ทำให้โลหิตหมุนเวียนดี แก้ปวด ฟกช้ำ ตรากตรำทำงานหนัก กล้ามเนื้อบริเวณเอวฟกช้ำ ไอเป็นเลือด ปวดกระเพาะ ฝีบวมมีหนอง อาการบวมอักเสบ ขับเสมหะ’

ในประเทศอินเดีย มีการใช้น้ำที่สกัดจากต้นมะเขือพวงมาแก้พิษแมลงกัดต่อย กินผลเพื่อบำรุงตับ ช่วยบรรเทาโรคแผลในกระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะ ช่วยย่อยและช่วยให้ผ่อนคลายง่วงนอน บำรุงตับ และยังใช้มะเขือพวงกำจัดพยาธิในระบบทางเดินอาหาร และรักษาแผลกระเพาะอาหาร

ในประเทศแคเมอรูน ใช้ใบมะเขือพวงห้ามเลือด เป็นยาระงับประสาท พอกให้ฝีหนองแตกเร็วขึ้น แก้ปวด ทำให้ฝียุบ แก้ชัก ไอหืด ปวดข้อ โรคผิวหนัง ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ และแก้ซิฟิลิส และใช้ผลมะเขือพวงรักษาโรคความดันโลหิตสูง และยังมีงานวิจัยหนึ่งในประเทศแคเมอรูนที่ระบุว่า เมื่อให้สารสกัดน้ำและแอลกอฮอล์ของผลมะเขือพวงกับหนูทดลอง พบว่าความดันโลหิตของหนูต่ำลง และลดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย

นอกจากนี้มะเขือพวงยังช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารได้อีกทาง โดยกลุ่มวิจัยในแคเมอรูนพบว่า สารสกัดน้ำและแอลกอฮอล์ของมะเขือพวง มีฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่เกิดจากแอลกอฮอล์ ยา และความเครียด ส่วนที่ให้ผลดังกล่าวเพราะมีองค์ประกอบเป็นสารกลุ่มฟลาโวนอยด์และไทรเทอร์พีนนั่นเอง

สำหรับในประเทศจีนนั้น ได้นำผลมะเขือพวงมาต้มในน้ำสะอาดเพื่อดื่มแก้ไอและบำรุงเลือด ทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง  ทั้งยังใช้ผลแห้งย่างกินแกล้มอาหารบำรุงสายตาและรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย

เพื่อนบ้านใกล้ไทยอย่างประเทศมาเลเซีย ก็นำเมล็ดมะเขือพวงไปเผาให้เกิดควัน แล้วสูดเอาควันรมแก้ปวดฟัน และยังตำรากมะเขือพวงมาพอกรอยแตกที่เท้าหรือโรคตาปลาได้ผลดีอย่างไม่น่าเชื่อ

ทั้งนี้ สารสำคัญชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในมะเขือพวงที่มีชื่อว่า เพ็กทิน (pectin) นั้น เมื่อกินเข้าไปจะเปลี่ยนรูปเป็นวุ้นไปเคลือบผิวลำไส้ และช่วยเพิ่มความหนืดของอาหาร ทำให้อาหารเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้ช้า ลำไส้จึงดูดซึมแป้งและน้ำตาลที่ย่อยแล้วได้ช้าลง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อนข้างคงที่ การดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหารหรือน้ำดีลดลง และเกิดการสร้างน้ำดีขึ้นมาทดแทน

และความเด็ดของเพ็กทินคือ สามารถดูดซับไขมันส่วนเกินจากอาหาร ลดการดูดซึมสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่ร่างกาย สามารถดึงน้ำไว้ได้เป็นจำนวนมาก จึงช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระ และกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติที่ลำไส้ใหญ่

มีคำถามว่า แล้วในมะเขือตระกูลเดียวกันชนิดอื่นๆ มีสารเพ็กทินหรือไม่ คำตอบคือ มีทั้งในมะเขือยาว มะเขือเปราะ และมะเขือพวง หากแต่ในมะเขือพวงมีปริมาณเพ็กทินมากที่สุด จึงอาจกล่าวได้ว่า เพ็กทินในมะเขือพวงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้มะเขือพวงมีคุณสมบัติลดน้ำตาล ลดคอเลสเตอรอล ลดความดันโลหิต และช่วยความสมดุลของระบบขับถ่ายดังที่ใช้กันในหลายประเทศ