“ชิเมจิ” เห็ดยอดฮิตช่วยผิวเด้งเพราะเส้นใยเยอะ

KC Fresh มั่นใจ 95% เลยว่า คุณต้องเคยได้ยินชื่อเห็ด “ชิเมจิ” อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะจากในร้านสุกี้ชื่อดังหรือในร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งหลาย เพราะเห็ดหน้าตาน่ารักชนิดนี้ เป็นที่นิยมบริโภคกันมากๆ ไม่ใช่แค่ว่ามีคุณค่าสารอาหาร แต่ยังอร่อย ทำได้หลายเมนู ที่สำคัญคือ หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง

วันนี้ KC Fresh จึงขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเห็ดชิเมจิ 2 สายพันธุ์ที่เจอกันบ่อยมากๆ ในบ้านเราค่ะ 

ชนิดแรก หลายคนเรียกว่า ชิเมจิสีน้ำตาลเพราะดูจากรูปลักษณ์ภายนอกที่มีความโดดเด่นที่สีน้ำตาล แต่จริงๆ ถ้าจะให้เรียกแบบถูกต้อง ก็คือ บุนะชิเมจิ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ได้จากการเพาะเลี้ยงและมีขายอยู่ทั่วไป โดยชื่อ ‘บุนะ” เป็นชื่อของต้นไม้ที่คนญี่ปุ่นใช้เพาะเลี้ยงเห็ดชนิดนี้ คือ ต้นบีชหรือบุนะ ซึ่งเห็ดชิเมจิพันธุ์นี้จะมีรสชาติอร่อยและมีเนื้อสัมผัสกรุบ

ชนิดที่สองคือ เห็ดชิเมจิขาว พันธุ์นี้จะมีสีขาว มีรสขมน้อยและรสชาตินุ่มละมุน ซึ่งบ้านเราคุ้นเคยกันที่สุด แค่มองดูก็น่ากินสุดๆ เพราะด้วยความขาวสะอาดตา และความรู้สึกอวบๆ ของขาเห็ด เห็นทีไรหลายคนอดไม่ได้ที่จะออเดอร์มากิน

ส่วนประโยชน์ของเห็ดชิเมจินั้น เด่นๆ คือเรื่องของ ‘เส้นใยอาหาร’ เพราะมีสูงมาก เรียกได้ว่า พอๆ กับมันเทศ  จึงช่วยในเรื่องการขับถ่าย ป้องกันอาการท้องผูกและมะเร็งลำไส้ และยังช่วยป้องกันการเพิ่มของระดับคอเลสเตอรอลในเลือดจากการที่เส้นใยอาหารจับกับไขมันจากอาหารที่กินเข้าไปแล้วขับออกทางอุจจาระ นอกจากนี้ในเห็ดชิเมจิยังมี...

  • บีต้ากลูแคน (β-Glucan) ช่วยกระตุ้นการทำงานเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำการดักจับและทำลายสิ่งแปลกปลอมอย่างเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่เข้าสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรงและไม่ป่วยง่าย
  • กรดกัวนิลิก (Guanylic acid) สารที่มีรสชาติเฉพาะตัวที่ช่วยป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งและความดันโลหิตสูง และยังช่วยขับเอาสารพิษออกจากร่างกาย
  • เทอร์ปีน (Terpenes) สารให้รสขมที่เป็นเอกลักษณ์ในเห็ดชิเมจิ ช่วยยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งและมีผลในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย
  • วิตามินบี 2 ช่วยเสริมการเผาผลาญของไขมันในร่างกายส่งผลให้ไม่อ้วนง่าย และช่วยคงความงามของผิวพรรณ เล็บและเส้นผม

ส่วนเคล็ดลับในการดูว่า เห็ดชิเมจิสวยงามน่าซื้อน่ากินไหม ให้ดูที่หมวกเห็ดต้องกลมตึงไม่บานเกินไปและมีก้านเห็ดขาวอวบนะคะ