ไข่ผำ หรือ “ผำ” พืชน้ำขนาดเล็กที่ได้รับความสนใจในระดับสากลในฐานะ “ซูเปอร์ฟู้ด” เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารหลากชนิด โดยเฉพาะโปรตีนจากพืชที่มีปริมาณสูงถึง 40–45% ของน้ำหนักแห้ง และที่น่าสนใจคือมีกรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนเหมือนเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังเป็นแหล่งวิตามิน B12 ที่พบได้น้อยมากในพืชทั่วไป ไม่ได้เหมาะกับชาวมังสวิรัติหรือวีแกนเท่านั้น เพราะ “ไข่ผำ...ใครๆ ก็กินได้” แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคก็ควรเลือกปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยเสมอ
สำหรับ เด็กเล็กอายุ 1–3 ปี ควรเริ่มจากประมาณ 1–2 ช้อนโต๊ะต่อวัน โดยผสมในข้าวหรืออาหารบดเพื่อให้ง่ายต่อการกิน ส่วนเด็กวัย 4–12 ปีสามารถเพิ่มปริมาณเป็น 2–4 ช้อนโต๊ะ และแนะนำให้นำไปต้มจืด ผัด หรือลวกกินกับน้ำพริก
สำหรับผู้ใหญ่สามารถกินได้ถึง 50–70 กรัมต่อวัน เมื่อเทียบเท่ากับโปรตีนจากเนื้อสัตว์ประมาณ 1–1.5 ช้อนโต๊ะ ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการประจำวัน (แต่ต้องกินร่วมกับโปรตีนจากแหล่งอื่นด้วยนะคะ) หากแต่ในกรณีของผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องไต ขอให้จำกัดปริมาณไข่ผำไว้ที่ 30–50 กรัม เพื่อไม่ให้ร่างกายรับโปรตีนมากเกินไป
และสุดท้าย คือกลุ่มว่าที่คุณแม่ และคุณแม่ให้นมลูกสามารถกินไข่ผำได้ แต่ควรเน้นเรื่องความสะอาดและความสุกของอาหารเป็นพิเศษ
อีกสิ่งหนึ่งที่หากอยากกินไข่ผำให้ถูกต้องและได้ประโยชน์สูงสุดควรรู้ไว้คือ แม้ไข่ผำจะกินได้ทั้งดิบและสุก แต่การเลือกวิธีปรุงก็มีผลต่อทั้งความปลอดภัยและคุณค่าทางโภชนาการ เพราะในการกินดิบจะช่วยคงคุณค่าสารอาหารบางชนิดไว้ได้อย่างดี เช่น วิตามินที่ไวต่อความร้อน แต่ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงจากเชื้อโรคหรือพยาธิหากแหล่งเพาะปลูกไม่สะอาด แต่หากเลือกที่จะกินแบบสุก จะด้วยการลวกหรือต้มก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากจุลินทรีย์หรือสารปนเปื้อนต่างๆ ได้โดยไม่ทำลายสารอาหารมากนัก วิธีการหลังนี้จึงเหมาะกับเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัวที่ต้องระวังเรื่องความสะอาดของอาหาร
อีกคำถามหนึ่งที่ถือว่ายอดฮิตไม่แพ้คำถามไหนๆ เกี่ยวกับไข่ผำคือ จะรู้ได้อย่างไรว่าไข่ผำสุกหรือไม่
ดูไม่ยากค่ะ เพราะไข่ผำสดจะมีสีเขียวสด เนื้อกรอบนุ่ม มีกลิ่นหญ้าอ่อนๆ ส่วนไข่ผำที่ผ่านความร้อนแล้วจะมีสีเขียวเข้มขึ้น เนื้อจะนุ่มลงและมีกลิ่นจางลง หากนำไปลวกในน้ำเดือด 1–2 นาทีก็เพียงพอที่จะทำให้ปลอดภัยต่อการรับประทาน
ทั้งนี้ แม้ไข่ผำจะดีงามและขึ้นชื่อว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ดก็ยังมีข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม นั่นคือ การเลือกไข่ผำ ควรเลือกจากแหล่งที่เพาะปลูกด้วยระบบที่ปลอดภัย เช่น ฟาร์มที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP หรือระบบออร์แกนิก เพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีและโลหะหนักที่อาจตกค้าง และควรล้างให้สะอาดก่อนนำมาปรุง โดยอาจแช่น้ำส้มสายชูหรือเกลือเล็กน้อยเพื่อช่วยฆ่าเชื้อ แต่หากที่ไม่เคยกินมาก่อน ควรเริ่มในปริมาณน้อยเพื่อตรวจสอบว่าไม่มีอาการแพ้ เช่น ท้องอืด ผื่น หรืออาการผิดปกติอื่น ๆ หากพบอาการควรหยุดรับประทานและปรึกษาแพทย์
สำหรับผู้ที่สนใจอยากลองกินไข่ผำ ตอนนี้ KC Fresh ได้นำ ไข่ผำ แบรนด์ Flo มาจำหน่ายในปริมาณ 200 กรัม (199.-) โดยไข่ผำจาก แบรนด์ Flo ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เน้นคุณภาพและมาตรฐาน เป็นไข่ผำที่เกิดจากการเพาะเลี้ยงที่ควบคุมสภาพแวดล้อม ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สะอาด ปราศจากสารปนเปื้อน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการวิจัยและพัฒนาโดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้มั่นใจในความสะอาดและปลอดภัยค่ะ
ข้อมูลบางส่วนจาก